ads head

วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555

แนวการลงทุนแบบ C-A-N-S-L-I-M” ของ “วิลเลียม โอนิล"

แนวการลงทุนแบบ C-A-N-S-L-I-M” ของ “วิลเลียม โอนิล"




วันนี้ขอเสนอแนวความคิดของนักลงทุนคนหนึ่ง ที่หลายๆคนอาจจะไม่รู้จัก

ก็คือ วิลเลี่ยม ครับ


วิลเลี่ยม เจ โอนีล




ประวัติส่วนตัว

บิล โอนีล เรียนจบด้านการบริหารจาก Southern Methodist University ในปี 1955 และ ในปี 1958 หลังจากที่เขาได้ผ่านการเกณทหารแล้ว เขาเริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการเป็น นักเล่นหุ้น ให้กับบริษัท Hayden, Stone & Company และได้พัฒนารูปแบบการเล่นหุ้นที่มีชื่อว่า CANSLIM และด้วยรูปแบบการเล่นนี้ ทำให้เขากลายเป็นนักเล่นหุ้นที่ประสบความสำเร็จที่สุดในบริษัทในเวลานั้น

จากความสำเร็จด้านการงานและการเงินทำให้เขาริเริ่มก่อตั้งบริษัทของตัวเองขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า William O'Neil & Co., Inc, ในปี 1963 และตอนเขาอายุได้ 30 ปี เขาก็กลายเป็นบุคคลที่มีอายุน้อยที่สุดที่สามารถซื้อที่นั่งใน New York Stock Exchange ได้


ในปี 1983 เขาเริ่มทำหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการเงินและใช้ชื่อว่า Investor's Daily ซึ่งต่อมาก็เปลี่ยนชื่อมาเป็น Investor's Business Daily ในปี 1991 และในปี 2007 ที่ผ่านมา เขารับทำหน้าที่ในตำแหน่ง CEO ให้กับ William O'Neil & Co. และยังคงทำหน้าที่เป็นบอร์ดบริหารและผู้ผลิต Investor's Business Daily รวมไปถึงเป็นคุณครูและเขียนบทความเกี่ยวกับการลงทุน


รูปแบบการลงทุน

โอนีล ได้ทำการผสมผสานรูปแบบการลงทุนของตัวเอง โดยใช้ quantitative และ qualitative strategies ผสมกันและนำมาปรับใช้ หรือจะพูดง่ายๆก็คือ รูปแบบการลงทุนของเขาคือการค้นหาหุ้นที่มีความน่าจะเป็นที่จะขึ้นทันที่ ที่มีการซื้อขาย


โอนิล การลงทุนแบบนี้ ทำให้ภายในหนึ่งปีผ่านไปเขาสามารถทำเงินจาก 5,000 เหรียญ เป็น 200,000 เหรียญ

บิล โอนีล มักจะพูดเสมอว่า จงซื้อหุ้นที่ดี และ ขายหุ้นที่ไม่ดี และ รูปแบบการเล่นของเขาก็คือการใช้หลัก CANSLIM ที่เขาคิดขึ้นมาเอง



C – Current quarterly earnings per share

ผลกำไรไตรมาสก่อน, รายได้ของหุ้นตัวนั้นๆในไตรมาสต่างๆเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยต้องเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 25%



A – Annual earnings

กำไรต่อปีเพิ่มขึ้น, รายได้ต่อปีจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 25% ในช่วง 5 ปีหลัง



N – New products, new management, and new highs.

หุ้นตัวใหม่ที่มีรูปแบบและการบริหารที่แตกต่าง



S – Supply and demand

อุปสงค์ และ อุปทาน, ยิ่งที่ปริมาณหุ้นน้อย ยิ่งทำให้ราคาสูง ดังนั้นลงมองหาหุ้นที่มี 10 ถึง 12 ล้านหุ้น


L – Leaders and laggards.

ผู้นำ และ ผู้ตาม, เลือกลงทุนในหุ้นที่มีความเข้มแข็งในอันดับต้นของกลุ่มนั้นๆ สัก 2-3 บริษัท หุ้นพวกนี้มักจะปรับตัวดีกว่าหุ้นอื่นๆในหมวดเดียวกันในอัตรา 80-90% ใน 12 เดือน อยู่ให้ห่างหุ้นที่ปรับตัวแย่ลงในระยะ 7 เดือน


I – Institutional ownership.

ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนสถาบัน, บริษัทที่ได้รับการสนับสนุน เราสามารถนำมาเป็นตัวเลือกได้


M – Market direction.

ทิศทางการตลาด, ศึกษาตลาดเพื่ิอหาสัญญาณการเพิ่ม และปรับตัวลงของตลาด


หนังสือที่ได้รับการตีพิมพ์


"How To Make Money In Stocks" by William J. O'Neil(1988).

"24 Essential Lessons For Investment Success" by William J. O'Neil (1999).

"The Successful Investor" by William J. O'Neil(2003).


Quotes


ถ้าตลาดเดินไปคนละทางกับที่คนส่วนใหญ่คิด ผมมั่นใจว่า 95% ของคนเหล่านั้นพูดจากความรู้สึก และ ความรู้สึกมักจะไม่ค่อยมีความหมาย ความจริงกับรูปแบบของตลาดนั้นมีความน่าเชื่อถือกว่ามาก

การที่จะประสบความสำเร็จในการเล่นหุ้นนั้น เวลาคุณเล่นเสีย ให้เล่นเสียในจำนวนน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

อะไรที่ดูเหมือนจะดีแต่เสี่ยงมักจะดีกว่าที่คุณคิดไว้ และ อะไรที่ดูไม่ดีแต่ง่ายก็มักจะดูแย่กว่าที่คิดไว้เฉ่นกัน



ขอขอบคุณแหล่งที่มา:

http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=36336&s=3dee92cb96b6a0bf6886145e265c542b
http://y2e-blog.blogspot.com/2012/10/c-n-s-l-i-m.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น