การหามูลค่าหุ้นที่ควรซื้อด้วย GORDON GROWTH MODEL
ที่มาhttp://chulakorn.blogspot.com/2012/05/gordon-growth-model.html
หายหน้าหายตาไปนาน กลับมาครั้งนี้น่าจะถูกใจใครหลายๆคนที่อยากจะรู้ว่า "ควรซื้อหุ้นนี้ที่ราคาไหนดี?"
ในฐานะที่เราเป็นนักลงทุนที่เน้นผลตอบแทนเป็นกระแสเงินสดและเงินปันผลเป็น
หลัก
คงจะไม่มีสูตรใดที่ดูจะเหมาะสมไปกว่าสูตรที่ใช้เงินปันผลเป็นหลักในการคำนวณ
และในครั้งนี้ผมจะเสนอสูตรที่ค่อนข้างเรียบง่าย
แต่สามารถใช้งานได้ดีพอสมควรมาให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆนักลงทุนได้ลองนำไปใช้กัน
นะครับ
สูตร Gordon Growth Model มีอยู่ว่า
P = D (1+G) / (RE-G)
สำหรับใครที่ไม่ค่อยถนัดเรื่องเลขก็ไม่ต้องกังวลนะครับ
เพราะผมเองก็ตกเลขเป็นประจำ เรียนก็เรียนสายศิลป์มาตลอด
ดังนั้นผมจะพยายามอธิบายให้เข้าใจง่ายนะครับ
P ในที่นี้หมายถึงสิ่งที่เราต้องการหา นั่นก็คือราคาที่เหมาะสมของหุ้นตัวนี้ครับ
D ในที่นี้คือจำนวนเงินปันผลงวดล่าสุดที่บริษัทนี้จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้น
เช่น ถ้าจ่ายเงินปันผลครั้งล่าสุด 5 บาท ก็เอาเลข 5 ไปแทนค่าตัว D ไว้เลย
G ในที่นี้คืออัตราการเติบโตของเงินปันผลที่เราคาดคะเนไว้
อาจหาได้ด้วยการหาสถิติการจ่ายเงินปันผลย้อนหลังหลายๆปีหน่อย
แล้วสังเกตดูว่าเงินปันผลที่บริษัทจ่ายนั้นเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกี่ % ต่อปี
แล้วนำเลข % ไปแปลงเป็นเลขทศนิยม เช่น 8% ก็จะเท่ากับ 0.08 ครับ จากนั้นเอา
0.08 ไปแทนค่า G ได้เลยครับ
RE ในที่นี้คืออัตราผลตอบแทนขั้นต่ำที่เราควรจะได้
หรือเรียกว่าต้นทุนของเงินของเรานั่นเองครับ
ตรงนี้อธิบายด้วยหลักตรรกะว่าถ้าเราเอาเงินไปซื้อพันธบัตรหรือหุ้นกู้แล้ว
ได้ดอกเบี้ย 5-6% ต่อปี การลงทุนในหุ้นก็ควรจะได้ผลตอบแทนที่สูงกว่านั้น
ดังนั้นการที่เราจะตัดสินใจโยกเงินมาลงทุนในหุ้นก็เท่ากับมีค่าเสียโอกาส
แล้ว 5-6% นั่นเอง ตัว RE
นี้จึงค่อนข้างจะขึ้นอยู่กับแต่ละตัวบุคคลนะครับว่ามองค่าเสียโอกาสของเงิน
ของตัวเองไว้มากแค่ไหน โดยส่วนตัวผมจะตั้งไว้ที่ประมาณ 12-15% ครับ
เพื่อความอนุรักษ์นิยมครับ เอาเป็นว่าในกรณีนี้เราตั้งไว้ที่ 12%
เมื่อแปลงเป็นทศนิยมก็จะได้เท่ากับ 0.12 ไปแทนค่า RE ครับ
เมื่อเราได้ตัวเลขทั้งหมดแล้วและนำไปแทนค่าในสูตร ก็จะออกมาเป็น
P = 5 (1 + 0.08) / (0.12 - 0.08)
ค่อยๆทำในวงเล็บก่อน
P = 5 (1.08 / 0.04)
ทำในวงเล็บก่อนอีกที
P = 5 x 27
P = 135 บาท
เพราะฉะนั้น จากสูตรคำนวณดังกล่าว ถ้าบริษัทจ่ายเงินปันผลงวดล่าสุดที่ 5
บาท และคาดว่าเงินปันผลน่าจะเติบโตปีละ 8% ไปเรื่อยๆโดยเฉลี่ย
โดยที่เราตั้งอัตราผลตอบแทนขึ้นต่ำ
หรือเป็นค่าเสียโอกาสของเงินลงทุนของเราไว้ที่ 12%
ราคาที่เหมาะสมของหุ้นของบริษัทนี้ก็น่าจะอยู่ที่ 135 บาทนั่นเองครับ
คำแนะนำและข้อควรระวัง
1. ไม่มีบริษัทไหนที่จะมีเงินปันผลเติบโตขึ้นในอัตราสูงๆได้ตลอดไป
ดังนั้นไม่ควรตั้งอัตราเติบโตของเงินปันผลไว้สูงนัก
ใครที่อนุรักษ์นิยมมากอาจตั้งไว้ที่ 3-4% ก็พอก็เป็นได้
2. ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น
ต้นทุนของเงินลงทุนของเราก็จะสูงขึ้นด้วยนะครับ
เพราะพันธบัตรและหุ้นกู้ก็จะให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นตามดอกเบี้ยครับ
3. เมื่อคำนวณหา P ได้แล้ว ถ้าจะให้ดี ควรคิดลดเผื่อความผิดพลาดไว้ด้วยครับ
(Margin of Safety) เช่น จากตัวอย่างข้างบนถ้าเราอยากได้ Margin of Safety
ซัก 25% ก็เอา 135 บาทตั้งแล้วลดราคาลงไป 25% ก็จะเหลือ 101.25 บาทครับ
วิธีการนี้จะทำให้เรามั่นใจในความปลอดภัยของการลงทุนมากยิ่งขึ้นนะครับ
credit. www.thaidividend.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น