ads head

วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ทำไมการเล่นหุ้นโดยติดตามข่าวรายวันจึงไม่ได้ผล




การเล่นหุ้นโดยติดตามข่าวรายวันนั้นดูเหมือนจะได้ผล ทั้งนี้เพราะทุกครั้งที่มีข่าวดี หุ้นก็ จะมีราคาเพิ่มขึ้น และทุกครั้งที่มีข่าวร้าย หุ้นก็จะมีราคาลดลง แต่การเปลี่ยนแปลงอย่างนี้ มีผลชัดเจนแค่ 1-2 วันเท่านั้น การเล่นหุ้นแบบนี้จะฃื้อขายบ่อย ทั้งนี้เพราะข่าวดีกับข่าวร้าย มักจะมาปะปนกัน การเล่นหุ้นแบบนี้ผมเรียกว่าเป็นการ "เล่นหุ้นระยะสั้น"

การเล่นหุ้นระยะสั้นอย่างนี้ท่านจะพบว่า ท่านทายถูกประมาณ 3 ใน 5 ครั้ง ซึ่งก็นับว่าเก่ง มากแล้ว เพราะคนซื้ออย่างเดาสุ่มนั้นจะเดาถูกแค่ 1 ใน 2 ครั้ง

แต่การทายถูก 3 ใน 5 นี้ก็ยังทำให้ท่านขาดทุน ทั้งนี้เพราะ เวลาเราทายถูกนั้นมันให้กำไร แค่ 2-3 % แต่ท่านต้องเสียค่าธรรมเนียมซื้อ และค่าธรรมเนียมขายในเวลาต่อมา รวมกัน 0.32 จึงเหลือกำไรจริงแค่ 1-2%(เฉลี่ย=1.5%) แต่เวลาทายผิด ท่านจะขาดทุน 2-3% และเมื่อรวม กับค่าธรรมเนียมแล้วกลายเป็นขาดทุนจริง 3-4%(เฉลี่ย=3.5%) ดังนั้น ถ้าท่านทายถูก 3 ครั้ง ก็จะมีกำไร = 3 คูณ 1.5 = 4.5% และทายผิด 2 ครั้งก็จะขาดทุน = 2 คูณ 3.5 = 7.0% ซึ่งรวม ผลการเล่น 5 ครั้งแล้ว = 4.5-7.0 = -2.5% หรือคือขาดทุนไป 2.5 %

อันที่จริงแล้ว ข่าวดีและข่าวร้ายต่างๆนั้นมีผลกระทบยาวนานกว่าที่เราคิด ทั้งนี้เพราะ ข่าว ต่างๆนั้นคือความจริงที่จะไปมีผลต่อกิจการและระบบเศรษฐกิจในเวลาต่อมา ราคาหุ้นนั้น จะลดลงหรือเพิ่มขึ้นตามแรงผลักดันของข่าวที่เกิดขึ้นย้อนหลังไปเป็นเดือนๆ หรือเป็นปีๆ ซึ่งเราไม่สามารถจะมาจดจำ หรือประเมินผลกระทบที่แท้จริงได้

เรื่องนี้ท่านยังไม่ต้องเชื่อผม ท่านลองเก็บสถิติดู คือ ต่อไปนี้เวลาท่านซื้อหรือขายหุ้น ให้ท่านจดบันทึก ราคาซื้อ ราคาขาย เอาไว้ เมื่อได้สัก 30-40 ครั้งแล้วลองนำมาคำนวณดู ดูว่ากำไรจริงเป็นเท่าใหร่ ขาดทุนจริงเป็นเท่าใหร่ รวมแล้วขาดทุนหรือกำไร และอัตรา การทายถูกของท่านเป็นเท่าใด แล้วนำมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่ผมพูดไว้ข้างบน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น