ads head

วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556

Catalyst ตอนที่สาม หาโอกาสจากตัวเร่งกับหุ้นถูกเรื้อรังที่โดนแช่แข็ง

Catalyst ตอนที่สาม หาโอกาสจากตัวเร่งกับหุ้นถูกเรื้อรังที่โดนแช่แข็ง

ที่มาhttp://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kunjoja
ไม่ว่าจะเป็นหุ้นแนวไหน ตัวไหนก็ตาม เมือไรที่มีStory (ขอเขียนเฉพาะstory ที่เป็นข่าวดี) ก็จะทำให้ ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น ยิ่งถ้าเป็น story ที่เป็น catalyst ก็ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นและมีโอกาสยื่นเหนือระดับเดิมได้นาน และยั่งยืนกว่า story ที่ไมใช่ตัวเร่ง
บริษัทที่มี Story ก็ไม่จำกัดว่า จะเป็น หุ้นดี หุ้นเน่า หุ้นไม่มีสภาพคล่อง หุ้น big market cap. ก็สามารถทำให้ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงทั้งนั้น แต่วันนี้เรามาคุยถึงกลุ่มหุ้น ชนิดหนึ่ง หุ้นถูกเรื้อรังที่โดนแช่แข็ง

เคยสงสัยไหมว่า มีหุ้นหลายๆตัวที่ ถูกเรื้อรัง พีอีต่ำ ราคาไม่ขึ้นเลย –

เมื่อศึกษาเข้าไปลึกๆ ก็มีหลายสาเหตุหลายปัจจัย เช่น


-ปัจจัยจากพื้นฐานบริษัทที่เกิดภาวะขาดทุนเรื้อรัง ไม่คืนกลับมาง่าย
-ปัจจัยจากบริษัทไม่มีแนวโน้มของการเติบโตมากไปกว่านี้ พูดง่ายๆ ถึงจุดอิ่มตัวมายาวนาน
-หรือ ปัจจัยอื่นๆอีกเช่น บริษัทไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรกับนักลงทุนทั้งๆที่ผลประกอบการดี ให้ปันผลน้อยนิดทั้งๆที่ มีกระแสเงินสดเหลือเฟือ เงินกำไรสะสมเพียบ เก็บเงินไว้กับบริษัทไม่ไปต่อทุนไร เพิ่ม แต่ ผบห.ไม่ได้สนใจกับราคาหุ้นในตลาด


มีกูรูหลายท่านได้เขียนเรื่อง หุ้นถูกเรื้อรัง แยกปัจจัยต่างๆไว้ ลองหาอ่านดูได้ในnet ทั่วไป
ตย.ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=nulex&month=23-06-2008&group=2&gblog=4
http://piggyman007.blogspot.com/2010/10/blog-post_6166.html

ใคร ที่นิยมซื้อหุ้นถูกเรื้อรังจะ ติดกับดับ ถูกหุ้นพวกนี้ แช่แข็งเงินเราไว้ ราคาไม่ไปไหนเสียที เผลอๆซื้อแล้วราคาลงมานิดนึงให้เสียดาย ไม่อยากขาย ขาดทุน (แม้จะน้อยนิด) รอด้วยความหวังว่า ราคาจะขึ้นมา เพราะต้นทุนสูงกว่าราคาหุ้นนิดหน่อย แต่ รอเป็นเดือนก็แล้ว รอเป็นไตรมาสก็แล้ว ไตรมาสถัดไปก็แล้ว ปีหนึ่งก็แล้ว ราคาก็ไม่ค่อยขยับ หรือขยับก็สูงขึ้นกว่าต้นทุนเราเล็กน้อย สรุป ถือหุ้นถูกเรื้อรังที่โดนแช่แข็งเอาไว้ เสียทั้งเวลา และเสียทั้งโอกาสในการทำให้เงินงอกเงยมากกว่านี้...

จุดในการพิจารณา การหาหุ้นถูกเหล่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดข้างต้น จึง ต้องคำนึงถึงหลายๆอย่าง

-หาให้ได้ว่า ทำไมถึงถูก
-หาให้ได้ว่า อะไรทำให้ไม่ถูก ความ หมายคือ มีตัวเร่งไหม มี catalyse อะไร การมองจุดนี้ต้องคำนึงถึงอะไรเป็นตัวแปรของการกระตุ้น และ เมือไรที่ตัวแปรนั้นที่เป็นตัวเร่งจะเริ่มทำงาน เพื่อเข้าซื้อได้ถูกจังหวะ
-หาให้ได้ว่า ถูกแล้วยังจะถูกได้อีกไหม ความหมายคือ ค้นหา Downside risk ของตัวบริษัทไว้ด้วยจะได้รู้ความเสี่ยงเวลาเข้าซื้อไว้แล้ว
-หาให้ได้ว่า ถึงเวลาที่จะเข้าซื้อได้หรือยัง โดย ปกติการถือหุ้นกลุ่มเหล่านี้ก็คือ การรอคอย (timing) เพื่อให้ตัวcatalyse ได้ทำงาน บางตัวก็ต้องรอนาน บางตัวก็รอไม่นาน ดังนั้น จังหวะการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มนี้จึงมีความสำคัญ เหมือนกัน


ข้อควรพิจารณาเมื่อเราซื้อหุ้นกลุ่มนี้
1.เมื่อซื้อหุ้นแล้ว ก็มักต้องการให้ราคาขึ้น ไม่ลง ไม่อยู่นิ่งกับราคาทุนเรา....
คำ ตอบ...การซื้อหุ้นกลุ่มนี้ ต้องอ่านเกมให้ออกว่า เราซื้อเพราะเราหวังในตัวกระตุ้นนั้น เป็นไปไม่ได้ที่พอเราซื้อแล้วตัวกระตุ้นจะวิ่งเข้ามาหาเราทันที
2.คุณสมบัติข้อหนึ่งที่ผมใช้สำหรับการรอคอย ตัวกระตุ้น ก็คือ มีสิ่งจูงใจให้รอได้ เช่น การปันผลที่สม่ำเสมอต่อเนื่อง
3.การ หาจังหวะการซื้อหุ้น บางครั้ง ต้องอาศัย ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง มาเป็นตัวแปรในการติดตามเฝ้าดู ว่าถึงเวลาหรือยังที่เราควรเข้าไปซื้อหุ้นได้แล้ว เช่น หุ้นเรือ ที่ต้องดูค่าระวางเรือ หุ้นรถยนต์ ก็เฝ้าดูยอดการผลิตรถยนต์ประจำเดือน เป็นต้น
4.จุดสำคัญอย่างหนึ่งในการติดตาม ก็คือ งบการเงินทุกๆไตรมาส ตัวแปรต่างๆมีทิศทางที่ดีขึ้น เช่น กำไรต่อหุ้นเพิ่มมากขึ้น เป็นต้น
..
จริงๆก็มีอีกหลายกรณี อันนี้แค่ยกมาเป็นตัวอย่างครับ


ปล. ทั้งหมดเป็นแค่ข้อความคิดเห็นและประสบการณ์โดยส่วนตัว ไม่ได้ใช้หลักการทางวิชาการเข้ามา ดังนั้นสามารถโต้แย้งและแชร์ไอเดียได้ครับ



Create Date : 31 มกราคม 2554

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น