ads head

วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2556

เครื่องมือช่วยจับจังหวะลงทุนแบบง่ายๆ ตอนที่ 1..

เครื่องมือช่วยจับจังหวะลงทุนแบบง่ายๆ ตอนที่ 1..

ที่มาhttp://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=kunjoja&month
การหาจังหวะการลงทุน(ซื้อหุ้น) มีหลากหลายมากมาย ตั้งแต่ ไม่มีเทคนิคอะไรเลย อยากซื้อก็ซื้อ จนถึง มีขบวนการซับซ้อน เทคนิคผสมผสานกันมากมาย
วันนี้เลยนึกถึงประโยคหนึ่งที่คุ้นหูกันมาก “สูงสุด คืนสู่สามัญ “

อย่ากระนั้นเลย ลองหาไรง่ายๆไม่ต้องยุ่งยาก ....มาช่วยในการตัดสินใจ

ปล. ขอออกตัวก่อนว่า ที่เขียน ก็แค่ตัวช่วยในการตัดสินใจ วิธีง่ายๆแบบหนึ่ง ย่อมมีจุดบอด ข้อเสีย ของมันเสมอ (ถ้าไม่มีเลย ทุกคนเอามาใช้ก็คงรวยกันหมด)
...........

ตัวแรกที่นึกถึง ในการช่วยตัดสินใจ คงจะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองตลาดแบบภาพรวมและลงทุนระยะยาวสักหน่อย ใครนิสัยใจร้อน ชอบเล่นสั้น เก็งกำไร คงอึดอัด ก็คงไม่น่าสนใจนักสำหรับเครื่องมือนี้
ข้อมูลก็หาไม่ยาก คลิกไปที่นี้เลย


http://www.set.or.th/en/market/market_statistics.html

แล้วก็เลือก P/E of set
......
ถูกแล้วครับ P/E ratio ของตลาดนั้นเอง...

เอา คร่าวๆคือ เมือตลาดหุ้นเป็นตลาดกระทิง ก็จะพาราคาหุ้นขึ้นไปสูงโดยเฉลี่ย ดัชนี ที่จะปรับตัวสูงขึ้นตามก็คือ P/E ratio ของตลาด และอัตราผลตอบแทนจากการปันผลโดยเฉลี่ยของตลาดก็จะลดลง
ถ้าตลาดหมี ก็จะเป็นตรงข้าม

พูดง่ายๆคือ P/E ratio สูงขึ้น ก็บ่งบอกว่า ตลาดโดยเฉลี่ยตอนนี้ แพง
ถ้า P/E ratio น้อยลง ก็บ่งบอกว่า ตลาดโดยเฉลี่ย ตอนนี้ถูกลง

(รายละเอียดว่า ค่า P/E ratio จะน้อยหรือมากขึ้นกับอะไรไว้มีโอกาสว่างๆอารมณ์ดีๆจะมาเล่าให้ฟังนะครับ)

ดัง นั้น ค่า P/E ratio เราก็เอามาเป็นสัญญาณ ว่าเราควรเข้าซื้อหุ้นในตลาดได้หรือยัง (ในกลุ่มที่มีประสบการณ์ อาจจะเถียงว่า หุ้นบางตัวก็ถูกแม้ว่า P/E ratioของตลาดจะ สูงๆก็ตามก็เอาว่าเป็นข้อยกเว้นบางกรณีครับ)
…..

ใน นักลงทุนที่ไม่ชอบเฝ้าจอดูตัวแปรมากมาย เงินเย็นถือยาวๆอย่างน้อยสามสี่ห้าเดือนขึ้นไป ก็ดู ว่า ถึงเวลา จะซื้อ หรือขาย ได้หรือยัง ถ้า P/E ratio สูงๆ ก็น่าจะถึงเวลาขายทิ้งแล้ว หรือ P/E ratio ต่ำๆ ก็น่าจะถึงเวลาเข้าซื้อหุ้นได้

แค่นั้นแระ ไม่ยาก เหมาะสำหรับการมองหาจังหวะจะเข้าซื้อหุ้น
......

เพื่อให้เห็นภาพ Real time ก็ขอcopy มาไว้นิดหนึ่ง

Month-Year ........... P/E ratioSET
Apr-10 ............ 13.79
Mar-10 ........... 14.27
Feb-10 ........... 16.35
Jan-10 ............ 24.22
Dec-09 ........... 25.56
Nov-09 ............ 23.95


จะเห็นว่า ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา P/E ratio ค่อนข้างมากกว่า 20 มาติดต่อกัน ถือว่า ตลาดเราค่อนข้างแพง
แต่พอหลังเดือนกพ 53 ตลาดเรามีค่า P/E ratio ลดลงเรื่อย

.....


ลองดูข้อมูลการซื้อและขายของต่างชาติในสิ้นเดือนแต่ละเดือนพิจารณาดู
Foreign Trading (million Baht) : SET
Month-Year ......BUY ......... SELL
Apr-10 .........108,195.68 ...... 112,289.71
Mar-10 ........ 138,785.14 ....... 94,184.86
Feb-10 ......... 69,916.29 ....... 64,494.56
Jan-10 ........ 79,704.48 ........ 87,189.42

ข้อ สังเกต ที่ผู้เขียนสังเกตเองว่า สิ้นเดือนกพ. ตลาดเราได้มีการคำนวณ P/E ratioลดลงอย่างมาก พอหลังจากนั้นเดือนมีนาคม ก็เป็นช่วงเวลาที่ต่างชาติมีการเข้าซื้อสุทธิในตลาดไทยมากมาย เป็นไปได้ไหมที่ต่างชาติก็มองตัวแปรนี้เป็นตัวหนึ่งในการเข้าซื้อหุ้นเช่น กัน

.......
ณ ตอนนี้ P/E ratio ของเรา ถูกไหม คงต้องไปดูสถิติย้อนหลัง เราเคย เหลือแค่ 6 เท่า และเคยสูงสูดประมาณ 31 เท่า ดังนั้น ก็ต้องแล้วแต่การพิจารณาของแต่ละคนว่า ณ. P/E ratio เท่าไรดีที่เราคิดว่า ถูกหรือแพง (จริงๆต้องไปศึกษาปัจจัยต่างๆด้วย จะช่วยตอบได้ว่า ณ ปัจจุบัน P/E ratio จะลดลงอีกไหม หรือจะขึ้นต่อ)

แต่ ตามความคิดของผม P/E ratio ณ สิ้นเดือนเมษายน ถือว่า ไม่ถูกและไม่แพงเท่าไร
แต่ อย่าลืมว่า ปัจจัยการเมืองที่ผ่านมากระทบต่อเศรษฐกิจเราสมควร ดังนั้น ก็น่าติดตามว่า สิ้นเดือนพค.นี้ เราจะมีค่า P/E ratio เปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน

ขอจบแบบง่ายๆ ไว้มีโอกาส จะมาหาตัวแปรอื่นๆมาแนะนำกันใหม่ครับผม
.......



Create Date : 23 พฤษภาคม 2553

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น